
- Description
Buddhadhamma Tepitaka Sadhayanamanasutta_mixdown
ชวนโยมเรียนพระไตรปิฎก
เรื่องสธายนมานสูตร หรือ สัททายมานสูตร
พูดพร่ำเพรื่อเป็นบาปไม่รู้ตัว
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในโกศลชนบทกับภิกษุสงฆ์หมู่
ใหญ่ ก็สมัยนั้นแล มาณพ(หนุ่มวัยฉกรรจ์หลายคน)ด้วยกัน(ต่างก็พูดคุยด้วยเสียง(อันดัง)อื้ออึงมาก เดินผ่านไป ในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาคเจ้านัก
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงเห็นมาณพมากด้วยกันนั้น เปล่งเสียงอื้ออึง เดินผ่านไป
ในที่ไม่ไกล ฯ
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่ง
อุทานนี้ในเวลานั้นว่า
ชนทั้งหลายไม่มีสติ อวดอ้างว่าเป็นบัณฑิต พูดเรื่อยเปื่อยด้วยคำอันไม่จริง
พูดพร่ำเพรื่อจึงไม่รู้ว่าคำพูดของตนนั้นชวนทะเลาะเบาะแว้ง
อธิบายธรรม
คนชอบพูด ขี้คุย ขี้โม้ ขี้อวด มักเป็นไม่มีสติสัมปชัญญะ ถึงมีความรู้ แต่ก็เป็นความรู้งูๆปลาๆ ผิดๆถูกๆ คนที่ฟังผู้นั้นพูด หากมีพื้นฐานความรู้น้อย ก็พลอยเชื่อคำพูดของคนขี้โม้นั้นอย่างง่ายดาย
คนเหล่านี้ ชอบพูดพร่ำเพรื่อ พูดเรื่อยเปื่อย หรือชอบแทรกคนอื่นพูด เมื่อได้พูดแล้ว เหมือนได้เสพสุขอะไรสักอย่างหนึ่ง หากไม่ได้พูด มันอึดอัด ไม่สบายใจ แต่พอได้พูดแล้ว สบายใจ สุขใจ
ไม่รู้จักกาละเทศะ ไม่รู้ว่ากับใครควรพูดไม่ควรพูด เขาไม่สนใจว่าคนฟังจะชอบหรือไม่ชอบ เขาจึงผิดศีลข้อที่ ๔ เสมอๆ ดังนั้นเวลาคนที่ชอบพูดพร่ำเพรื่อนี้พูด จึงหมดค่ำ ไร้ค่า คนไม่เชื่อถือ คำพูดของเขาทำลายตัวเขา เขาสร้างบุคลิคภาพของตนด้วยภาพลักษณ์ที่เหลาะแหละ น่ารังเกียจ
คำพูดของเขา ชวนให้คนเข้าใจผิดเป็นประจำ คนฟังหากไม่ไตร่ตรองด้วยดีแล้ว อาจจะทะเลาะกับคนอื่นอย่างง่ายดาย
คนชอบพูด ขี้คุย ขี้โม้ ขี้อวด จะไม่รู้ตัวเองเลยว่า กำลังผิดศีล กำลังทำลายตัวเอง กำลังทำบาปกรรม กำลังชวนให้ผู้อื่นทะเลาะกัน เพราะเขาคิดว่า ตนเป็นคนรู้ดี เป็นคนฉลาด รอบรู้
อ้างอิง
https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=25&A=3283