
- Description
Buddhadhamma Tepitaka Danda sutta
ชวนโยมเรียนพระไตรปิฎก
เรื่อง ทัณฑสูตร
คนทั้งหลายมักชอบทำในสิ่งที่ไม่ชอบ
เช้าวันหนึ่ง ขณะที่พระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมกับภิกษุสงฆ์ เสด็จไปบิณฑบาตในเมืองสาวัตถี เมื่อพระองค์เสด็จมาถึงระหว่างทางไปเมืองสาวัตถีและไป
วัดเชตวัน นั้นเอง
ทรงทอดพระเนตรเห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังเอาท่อนไม้รุมกันตีงูตัวหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเห็นดังนั้น จึงทรงถามว่า พวกเธอตีงูทำไมหรือ
เด็กเหล่านั้นทูลตอบว่า เพราะกลัวงูจะกัดจึงต้องตี
ดังนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส ว่า
หากเราอยากมีความสุขแล้วไปเบียดเบียนชีวิตคนอื่นเขา เราตายไปแล้วต้องไม่ได้ความสุขแน่นอน
แต่ใครต้องการมีความสุขแล้วไม่เบียดเบียนผู้อื่น ผู้นั้นตายไปแล้วต้องมีความสุข
อธิบายธรรม
สิ่งมีชีวิตที่มีจิตทั้งหลายมักคิดเหมือนเด็กกลุ่มนี้
เราอยากมีความสุขเราจึงต้องทำร้ายผู้อื่น
เราอยากมีความสุขจึงต้องกำจัดผู้อื่น
เราอยากมีความสุขจึงริษยาผู้อื่น
เราอยากมีความสุข เห็นใครได้ดีกว่าจึงหาทางกำจัด
เราอยากมีความสุขจึงเคร่งเครียด หมกมุ่นเพื่อแก้ปัญหาที่คิดว่าจะมีความสุข
เราอยากมีความสุขจึงทำลายศีล
เราอยากมีความสุขจึงทำตัวเป็นคนอยู่เหนือกฎหมายหรือควบคุมกฎหมายให้อยู่ในอำนาจตน
เราอยากมีความสุขจริงด่าว่าผู้อื่น
เราอยากมีความสุขจึงทะเลาะเบาะแว้งกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว
เราอยากร่ำรวย แต่เราก็ทำในทางที่ทำให้ยากจน
เราอยากสุขภาพดี แต่เราก็ทำในทางที่ทำให้สุขภาพแย่
เราอยากมีสุขภาพที่แข็งแรง แต่เราก็ในทางที่ทำให้สุขภาพอ่อนแอ
เราอยากมีอายุยืน แต่ก็เราทำตนในทางที่ทำให้อายุสั้น
เราอยากให้มีแต่คนรัก แต่เราก็ทำในทางที่ตรงกันข้าม ซึ่งทำให้คนเกลียด
เราอยากมีปัญญา แต่เราก็ปฏิบัติตนในทางที่ทำให้ตนโง่
เราอยากให้ครอบครัวอบอุ่น แต่เราก็ทำตนให้ครอบครัวเดือดร้อน
เราอยากให้สังคมสงบสุข แต่เราก็ทำตนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมเดือดร้อน
เรานับถือพระพุทธศาสนา แต่การกระทำของเราก็นับถือนับถือผีที่ชั่วร้าย โง่ ดีๆนี่เอง
เราอยากเป็นคนมีอิสรภาพแต่เราก็ชอบขังตัวเองไว้ในกรงขังแห่งอิสรภาพ
เพราะความที่เราคิดผิด เราจึงก่อปัญหาให้แก่ตัวเองอย่างไม่รู้ตัว นอกจากไปรู้ตัวแล้ว ยังคิดว่าตัวเองทำถูก การกระทำที่คิดว่าถูกนี่เอง ก่อปัญหาให้แก่เรามากมาย ก่อปัญหาให้แก่สังคมรุ่นแล้วรุ่นเล่า
เราจึงเป็นทุกข์เพราะคิดว่าการกระทำของเราถูก เราเป็นทุกข์ในขณะปัจจุบันแล้ว ยังไม่สิ้น เราจะทุกข์ในวันข้างหน้าอีก เราจะทุกข์ถึงชาติหน้า
ตราบใดที่เรายังไม่เป็นสัมมาทิฏฐิ เราจะเป็นมิจฉาทิฎฐิเรื่อยไป
อ้างอิง
https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=25&A=1753