Buddhadhamma Tepitaka Tilokavijaya
Buddhadhamma Tepitaka Tilokavijaya
popularity:0
  • Description

Buddhadhamma Tepitaka Tilokavijaya

ชวนโยมเรียนพระไตรปิฎก

เรื่อง พุทธาปทาน

ตอนพระเจ้าจักรพรรดิติโลกวิชัยแผ่บุญแด่สัตว์ทุกจำพวก

มีบทแผ่บุญแผ่กุศลบทหนึ่ง ที่เรียกว่า

“ติโลกวิชยปัตติทานคาถา” เป็นบทที่พระเจ้าจักรพรรดิติโลกวิชัย แผ่บุญของพระองค์แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย บทคาถานี้ บัณฑิตจากโบราณกาล ท่านได้คัดมาจากพุทธาปทาน (บทพระอุทานของพระพุทธเจ้า)มาสวดเพื่อแผ่บุญ เนื้อความย่อมากๆ ดังนี้

พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสถึงอดีตชาติของพระองค์ครั้งเมื่อเป็นพระเจ้าจักรพรรดิติโลกวิชัยได้ทำบุญมากมาย พระองค์ยังแผ่บุญความดีที่พระองค์ได้ทำแล้วนั้นแก่สรรพสัตว์ทุกจำพวก ดังนี้ว่า

กุศลกรรมใดๆ ควรเพื่อบังเกิดในสวรรค์ชั้นไตรทิพย์ที่ข้าพเจ้าพึงกระทำด้วยกาย วาจา ใจ กุศลกรรมนั้นทั้งหมด ข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว

สัตว์เหล่าใดมีสัญญาก็ตาม

และสัตว์เหล่าใดไม่มีสัญญาก็ตามมีอยู่

ขอสัตว์เหล่านั้นทั้งหมดจงเป็นผู้มีส่วนเสวยผลบุญที่เราทำแล้ว

สัตว์เหล่าใดรู้ว่าเราทำบุญ

ขอสัตว์เหล่านั้น จงมีส่วนเสวยผลบุญที่ข้าพเจ้าให้แล้ว

ก็ในบรรดาสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดไม่รู้

ขอเทวดาจงไปประกาศให้สัตว์เหล่านั้นทราบเถิด

เหล่าสัตว์ในโลกผู้อาศัยอาหารเลี้ยงชีวิตทุกจำพวก

ขอจงได้โภชนาหารที่น่าพอใจ ตามเจตนาของข้าพเจ้าเถิด

อธิบายคาถาตรงนี้เพิ่มเติม

กุศลกรรมความดีทั้งหลายอย่างใดอย่างหนึ่งที่ควรทำ กุศลกรรมที่ควรทำทั้งหมดนั้น เราทำแล้วด้วยกาย วาจาและใจ คือด้วยไตรทวาร ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา อันเป็นเหตุให้บังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

แล้วพระองค์แผ่บุญนั้นว่า

สัตว์ทั้งหลายทั้งที่เป็นมนุษย์ เทวดาหรือพรหมก็ตาม ที่มีสัญญา(มีจิต)คือประกอบด้วยสัญญามีอยู่ก็ตาม และสัตว์เหล่าใดที่ไม่มีสัญญาคือเว้นจากสัญญา ได้แก่สัตว์ผู้ไม่มีสัญญา(คือไม่มีจิต)ย่อมมีอยู่ สัตว์เหล่านั้นทั้งหมดจงเป็นผู้มีส่วนบุญที่เรากระทำแล้ว จงเป็นผู้มีบุญคือได้บุญของเราด้วยเถิด

พระโพธิสัตว์ยังแผ่บุญต่อไปอีกว่า

บุญที่เราทำแล้ว หากคน นาค คนธรรพ์และเทพเหล่าใด รู้ดีแล้วคือทราบแล้ว ว่าเราให้ผลบุญ ขอนรชนเป็นต้นเหล่านั้น จงอนุโมทนาบุญ จงได้บุญของเราเถิด หากนรชน นาค คนธรรพ์และเทพเหล่าใด ไม่รู้ว่าเราอุทิศบุญให้จากบุญที่เราทำแล้วนั้น ขอเทวดาทั้งหลายจงไปบอกให้นรชน นาค คนธรรพ์และเทวดาเหล่านั้นรู้ด้วยเถิด

พระองค์นอกจากอุทิศบุญให้สรรพสัตว์ที่อนุโมทนาบุญเป็นแล้ว ก็ยังมีพระเมตตาต่อสัตว์ที่ไม่รู้จักอนุโมทนาบุญอีกด้วย เป็นสัตว์ที่ต้องอาศัยอาหารอย่างเดียวเท่านั้น จึงจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างสบาย พระองค์ตั้งเจตนาแห่งจิตให้สัตว์เหล่านั้นมีอาหารกินว่า

สัตว์เหล่าใดในโลกทั้งปวงผู้อาศัยอาหารเลี้ยงชีวิต สัตว์เหล่านั้นทั้งหมดจงได้โภชนะอันพึงพอใจทุกอย่างด้วยใจของเรา คือด้วยจิตของเรา หมายความว่า จงได้อาหารด้วยบุญฤทธิ์ของเรา ด้วยพลังบุญของพระองค์ขอให้อาหารบังเกิดแก่สัตว์เหล่านั้น

พวกเราทั้งหลาย มีบุญแล้ว ควรแผ่บุญด้วยเถิด หากท่านใดมีเมตตาต่อสัตว์ที่ต้องการอาหาร ซึ่งมีตั้งแต่เทวดาชั้นต่ำลงมา เราตั้งอาหาร แล้วเชื้อเชิญสิ่งศักดิ์สรรพสัตว์มากินอาหารนี้เถิด รสและความประณีตของอาหารจะเกิดด้วยพลังจิตที่สะอาดของเรา สัตว์เหล่านั้นจะได้กินอาหารที่เลิศรส

แม้การมอบอาหารแก่ผู้อื่นด้วยจิตที่เมตตาของเรา นับว่าเป็นฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่เราก็ทำได้ และขลังมากด้วย

หากเราทำด้วยจิตที่สะอาดด้วยเมตตาธรรม ด้วยความรู็สึกว่าเป็นบุญ เราจะมีความสุขมาก อีกทั้งเทวดาสิ่งศักดิ์ทั้งหลายเหล่านั้นมีความสุขเพราะอนุโมทนาบุญของเรา ได้กินอาหารจากเรา ต้องมีเมตตาจิตต่อเราเช่นกัน และส่งผลบุญยิ่งใหญ่มาก

อ้างอิง

https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=32&siri=1

ข้อที่ ๔๙-๕๒

You may also like...

Popular Articles...