Buddhadhamma Tepitaka Battasutta ii
Buddhadhamma Tepitaka Battasutta ii
popularity:0
  • Description

Buddhadhamma Tepitaka Battasutta ii

ทบทวนธรรม

ชวนโยมเรียนพระไตรปิฎก

เรื่อง ภัตตสูตร หรืออุสสูรภัตตสูตร

คนตรงเวลาเทวดาก็รัก(รักษา)

การทำอะไรสาย ดูเหมือนว่า มันไม่เป็นเรื่องร้ายแรงอะไร หากคิดแบบคนที่ชอบทำอะไรสายเสมอ ไม่เสียหายอะไรนัก เขาจึงมักทำตัวสายเสมอ

แต่จริงๆแล้ว คนที่ทำตัวไม่ตรงเวลานัดหมาย มีผลกระทบต่อชีวิตสูงมาก แม้ไม่ตรงเวลาเพียงครั้งเดียว ภาพนั้นก็จะเป็นภาพที่ติดอยู่ในใจของคนที่นัดเราแน่นอน จะเป็นภาพที่คอยหลอนนัดครั้งต่อไปกับเรา ยิ่งเราไม่ตรงเวลาจนเป็นนิสัย ตอนนี้ภาพลักษณ์ทั้งชีวิตของเรา ไร้เสน่ห์แล้ว หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่มีใครอยากนัดเรา ไม่อยากทำกิจการ งานต่างๆกับเรา คนไม่ตรงเวลาเป็นการกระทำเท็จทางกาย แต่ก็มีผลต่อทางวาจาและใจ คนไม่ตรงเวลามักมีข้ออ้าง การอ้างสารพัดก็ออกมาจากใจ

ในพระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสการทำอาหารสาย ส่งผลเสียต่อชีวิตแน่นอน ดังนี้

๑. ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมไม่ทัน

๒. เซ่นไหว้เทวดาก็ไม่ทัน

๓. พระภิกษุสงฆ์ ผู้ฉันมือเดียว ก็จะอดฉัน

๔. คนทำงานในบ้าน ก็หมดแรง หลบงาน

๕. รับประทานอาหารสายเกิน ขาดรสชาติ ร่างกายไม่กระปรี้กระเปร่า

หากทำอาหารตรงเวลา ทันเวลาที่เหมาะสม ก็เจริญก้าวหน้าในชีวิต ดังนี้

๑. ได้ต้อนรับแขกเหมาะสมกับเวลา ทำให้แขกผู้มาเยือนชื่นชม

๒. ได้เซ่นไหว้เทวดาสิ่งศักดิ์ตามเวลาที่เหมาะสม

๓. ได้ถวายพระภิกษุสงฆ์ ผู้ที่ฉันมื้อเดียว

๔. คนงานในบ้านก็มีแรงมีกำลังทำงาน

๕. รับอาหารในเวลาที่เหมาะสม รสอาหารจะอร่อย ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปล่า

อธิบายธรรม

๑. ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมไม่ทัน

เราเป็นแขกบ้านใด หากเจ้าของบ้านเฉื่อยชา เราจะอึดอัดทันที ไปนั่งอยู่นาน กว่าจะได้น้ำสักแก้ว หากคุ้นเคยกันมาก ก็กล้าขอแบบง่ายๆ หากไม่คุ้นเคยก็เขินที่จะขอนั่นขอนี่

เมื่อถึงเราจัดงานบ้าง เราก็อึดอัดใจที่จะเชิญเจ้าของบ้านนี้ เพราะเข็ดกับการเป็นแขกเมื่อครั้งโน้น

คนทำอะไรช้า ทำอะไรสาย

หากทำการค้า ส่งสินค้าไม่ตรงเวลา ครั้งต่อไปก็ไม่อยากร่วมงานกับคนนี้หรือบริษัทนี้

๒. เซ่นไหว้เทวดาก็ไม่ทัน

มีคนหลายเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ นิยมไหว้ผีบรรพบุรุษ ผีบ้านผีเรือน เพื่อให้บรรพบุรุษผีบ้านผีเรือนคุ้มครองให้เจริญรุ่งเรือง คุ้มครองป้องกันภัยต่างๆ

มีคนมากมายไหว้สิ่งศักดิ์ สารพัดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยการตั้งอาหารหวานคาว น้ำต่างๆแก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น หากท่านใดไหว้ ก็ไหว้บูชาพอประมาณก็แล้วกัน หากมากเกินไป ก็จะกลายเป็นคนกลัวสิ่งศักดิ์ไม่ช่วย ก็เลยต้องไหว้หนัก บางทีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากเกินไป เต็มบ้านเต็มเรือน กลายเป็นรกรุงรัง ฝุ่นจับบ้านจับสิ่งศักดิ์สิทธิ์สกปรก รกไปหมด

เราควรตั้งเจตนาว่าเราจะบำเพ็ญบุญ เราควรมีเมตตาแล้วบูชาสิ่งศักดิ์ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยอาหารหวานคาว แม้ผีเร่ร่อนเราก็มีเมตตาให้อาหารเขา อีกทั้งได้บุญด้วย เราบำเพ็ญด้วยคุณธรรม หากเอาความกลัวเป็นตัวตั้งในการไหว้ หรือต้องการใช้แรงงานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราจะกลายเป็นคนหมกมุ่นวุ่นวายอยู่แต่ในเรื่องการไหว้

ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ควรตั้งกติกา กำหนดเวลา ไม่ใช่อยากไหว้เวลาไหน ก็ไหว้เวลานั้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์มารับอาหารไม่ถูกสักที เทวดาสิ่งศักดิ์ท่านก็มีกิจธุระเหมือนกัน ไม่ใช่จะนั่งคอยอยู่ตรงนั้นทั้งวันทั้งคืน ตั้งกติกาแก่ตัวเองว่าจะทำเวลานี้ทุกวัน แล้วก็ต้องทำตามเวลานั้น วันไหนไม่ว่าง ไม่อยู่ก็บอกกล่าวท่านให้ทราบ

เทวดาสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่เราบูชาอาหารหวานคาวหรือด้วยธรรมะ เช่นแผ่บุญกุศลเป็นต้น ท่านมีความสุขก็จะคอยคุ้มครองเรา ช่วยเหลือเราด้วย

ท่านที่ไม่เชื่อการเซ่นไหว้บูชาเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นสิทธิของผู้นั้น

๓. พระภิกษุสงฆ์ ผู้ฉันมือเดียว ก็รับบิณฑบาตไม่ทัน

พระภิกษุบางรูปท่านฉันมือเดียว หากท่านรับนิมนต์แล้ว เจ้าของบ้านก็ทำอาหารสาย ทำช้า เวลาฉันของท่านก็หมดไป หากท่านไปรับบิณฑบาตที่บ้านนั้นเป็นปกติ แล้วเจ้าของบ้านก็สายประจำ สายเสมอ วันต่อๆไป ท่านก็ไม่อยากมาบ้านนี้แล้ว เจ้าของบ้านก็อดทำบุญไป หากพระไม่มารับอาหาร เจ้าของบ้านไม่ขวนขวายทำบุญต่อ ก็ตัดบุญของตนอีก เสียดายเวลาดีๆที่เกิดเป็นมนุษย์ ก็ทำลายตัวเองด้วยการเป็นคนเฉื่อยชา ช้า สาย ประจำ พระท่านก็มีกิจธุระเช่นกัน จะมัวเสียเวลาบ้านนี้ทุกวันๆ บ้านอื่นแทนที่จะได้บุญ ก็เสียไปอีก เพราะพระไปไม่ทันเวลาแล้ว สายแล้ว

๔. คนทำงานในบ้าน ก็หมดแรง หลบงาน

คนที่ทำงานในบ้าน ในร้าน ในบริษัทของเรา ได้รับอาหารสาย หรือฝ่ายครัวทำอาหารสาย ทำช้า คนงานเหล่านั้น ก็หมดแรง อู้งานได้ หรือหนีไปที่อื่นดีกว่า ส่งผลเสียต่อการเจริญรุ่งเรือง งานบ้านไม่เสร็จ บริการลูกค้าไม่ทัน คนอื่น บริษัทอื่น ก็ไม่อยากร่วมงานกับเจ้าของบ้านนี้ เจ้าของกิจการนี้ เจ้าของบริษัทนี้แน่นอน

๕. รับประทานอาหารสายเกิน ขาดรสชาติ ร่างกายไม่กระปรี้กระเปร่า

คนที่คอยรับประทานอาหารนาน นานจนหงุดหงิดหมดอารมณ์แล้ว แม้อาหารจะเอร็ดอร่อยแค่ไหน แต่มาสาย มาไม่ตรงเวลา ถึงรับประทานไป มันก็หมดรสชาติ เพราะอารมณ์เสียแล้ว

เรื่องกินนี้ เป็นเรื่องใหญ่มาก อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก แม้จะมีกินมากมาย แต่หากไม่ตรงเวลา สาย ช้า ก็ส่งผลร้ายต่อชีวิต ส่วนคนที่ไม่คอยมีกินนั้น ไม่ต้องกล่าวว่าจะลำบากแค่ไหน

คนที่เฉื่อยชา มักสาย ไม่กระตือรือร้น ถึงจะเป็นคนดี คนเก่ง มันก็ทำลายชีวิต ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย ไม่อยากร่วมงาน ไม่อยากทำกิจการด้วย

อาหาร คือทุกอย่างของชีวิต ส่งผลถึงระบบจิตด้วย ระบบการบริการ บริหารอาหารมีผลสัมพันธ์กับชีวิตเรา

หากทำตรงกันข้ามกับผู้มักสาย ก็มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง อย่างเดียว แม้หากมีปัญหาบ้าง ก็จะแก้ผ่านไปด้วยดี

อ้างอิง

https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=22&siri=228

You may also like...

Popular Articles...