Buddhadhamma Tepitaka Uppajjantisutta
Buddhadhamma Tepitaka Uppajjantisutta
popularity:0
  • Description

Buddhadhamma Tepitaka Uppajjantisutta

ชวนโยมเรียนพระไตรปิฎก

เรื่อง อุปปัชชันติสูตร

ยามคำ่คืนแม้แสงหิงห้อยก็ดูงดงาม แต่เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว หิงห้อยก็หมดแสงไป

ในขณะที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมตามความเป็นจริง คนที่ปฏิบัติตามธรรมนั้น ก็เห็นผลทันที ไม่ต้องคอยผลหรือความสำเร็จวันนั้นวันโน้น

ประชาชนชาวอินเดียสมัยนั้นก็เลื่อมใสในพระพุทธเจ้ามาก และนับวันยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ลัทธิความเชื่อเดิม ที่ฝากความสุขไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพเจ้า แล้วแต่ท่านจะประทานให้ ทำให้นักบวชในลัทธิศาสนาความเชื่อเดิมหมดความสำคัญ หมู่ประชาชนเลื่อมใสพระพุทธเจ้า พระสงฆ์มาก จึงถวาย จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ คิลานเภสัชบริขารมากมาย

พระอานนท์ เห็นเหตุการณ์นั้น จึงเข้ามาเฝ้าพระพุทธเจ้า ปรารภเรื่องดังกล่าวให้พระพุทธเจ้าฟัง พระองค์ก็เห็นด้วยตามนั้น ทรงตรัสว่า ธรรมดาหิงห้อยมีแสงตอนที่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น แต่เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว หิงห้อยก็หมดแสงไป อีกทั้งความเชื่อผิดๆที่ปฏิบัติกันมา ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ปฏิบัติตามไปก็พบแต่ความเลื่อมและไม่ได้ปัญญาไปเรื่อยๆ

คนทั้งหลายเชื่อพระพุทธเจ้า เพราะได้พิสูจน์ธรรมะคำสั่งสอนของพระองค์ด้วยตนเอง และเห็นผลตามนั้น ธรรมะนั้นเมื่อปฏิบัติและเข้าถึงธรรมชาติของธรรมะแล้ว จะพบความสุขอย่างแท้จริงด้วยตนเองทั้งนั้น

พระพุทธเจ้า ไม่ได้แสดงธรรมเพื่อข่มหรือทำลายศาสนาใด แต่ธรรมะนั้น ไม่ว่าใคร นับถือศาสนาใด ปฏิบัติตามได้ทั้งนั้น อยู่ที่ว่าศาสดา ศาสนิกของศาสนานั้นจะลดทิฏฐิของตนหรือเปล่า

ครั้งตรัสรู้ใหม่ๆ พระพุทธเจ้า มีความรู้สึกว่าไม่อยากแสดงธรรมด้วยซ้ำไป เพราะทรงดำริว่า ธรรมะละเอียด ลึกซึ้ง หยั่งถึงยาก เข้าใจยาก คงไม่มีใครฟังรู้เรื่อง แต่เมื่อมีพรหมมาขอร้องให้พระองค์แสดง พระองค์เห็นตามนั้น คนมีปัญญามากพร้อมที่รับฟัง ส่วนคนมีปัญญารองลงมาก็เข้าใจได้ ปฏิบัติตามได้ คนมีปัญญาน้อยเมื่อเลื่อมใสแล้ว ก็ได้บำเพ็ญตาม ก็ยังดี ส่วนคนไม่มีปัญญาแม้มีความรู้มากมีตำแหน่งงานใหญ่โตจนถึงคนโง่ ก็คงไม่เชื่อ ไม่เห็นความสำคัญของธรรมะ

ดังนั้น ในสมัยพุทธกาล คนมีปัญญาคนดีจึงได้ประโยชน์มากมาย จนถึงสมัยของเราทั้งหลาย ยังมีคนมากมายเชื่อพระพุทธเจ้า เชื่อพระธรรม เชื่อพระสงฆ์ แล้วปฏิบัติธรรม ได้รับประโยชน์ได้รับความสุขนับประมาณมิได้

แต่มีคนมากมายเช่นกัน เชื่อพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ก็จริง เป็นความเชื่อเฉยๆ อาจจะเชื่อตามประเพณีเท่านั้น เพราะไม่สนใจจะปฏิบัติตามธรรมจริงๆ ตรงกันข้ามกลับไปเชื่ออะไรก็ไม่รู้ เป็นแบบเอาจริงเอาจัง ไปเชื่อแสงหิงห้อยมากกว่า ว่าดีกว่าแสงดวงอาทิตย์ ขณะนี้แม้แสงอาทิตย์ก็ยังจ้าอยู่ แต่คนส่วนมากก็ศรัทธาเชื่อว่าแสงหิงห้อยจะให้ประโยชน์มากกว่าแสงดวงอาทิตย์ หิงห้อยแสงน้อยนิด ปริมาณแสงก็แทบมองอะไรไม่เห็น แต่คนก็ยังเชื่อและมีความหวังกับแสงน้อยๆนั้น

คนเชื่อว่าปฏิบัติตามธรรมแล้วเห็นผลช้า นี้แหละแสงหิงห้อยในใจเขา เมื่อเชื่อแสงหิงห้อยก็ไปตำหนิแสงอาทิตย์ว่าแสงไม่สวย

อ้างอิง

https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=25&siri=95

You may also like...

Popular Articles...