Buddhadhamma Tepitaka Pancabayavera  - 12121, 7.10 PM-1
Buddhadhamma Tepitaka Pancabayavera – 12121, 7.10 PM-1
popularity:0
  • Description

Buddhadhamma Tepitaka Pancabayavera – 12121, 7.10 PM-1

ชวนโยมเรียนพระไตรปิฎก

เรื่อง ปัญจเวรภยสูตร

เครื่องวัดความเป็นโสดาบันบุคคล

เครื่องมือตรวจสอบตัวเองว่าเป็นโสดาบันหรือใกล้เคียงความเป็นโสดาบันหรือยัง

ดังนี้

๑. รักษาศีลห้าได้อย่างบริบูรณ์

๒. ศรัทธาในพระรัตนตรัยด้วยปัญญาอย่างแท้จริง ไม่ใช่ศรัทธาตามประเพณีที่ผิด เมื่อศรัทธาด้วยปัญญาอย่างแท้จริงแล้ว ศีลก็จะเกิดขึ้นโดยปริยาย ศีลที่เกิดจากการศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นศีลที่ประเสริฐ เป็นอริย-ศีลทีเดียว เพราะคนที่ศรัทธามั่นคงจริงแล้ว ศีลจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องฝืนไม่ต้องทน ไม่ต้องอ้างโน่นอ้างนี่ จึงเรียกว่า องค์แห่งโสดาบันบุคค ๔ ประการ คือ ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และอริยศีล

๓. มีญายธรรม คือเข้าใจปฏิจจสมุปบาท ว่า

เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี

เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น

เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี

เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ

นี้คือกฎของธรรมชาติ กฎของทุกสรรพสิ่ง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นลอยๆ ไม่มีอะไรที่ไม่มีเหตุไม่มีปัจจัย ไม่มีอะไรบังเอิญ

แม้ร่างกายคือชีวิตที่เรียกว่า “เรา” นี้ ก็จาก “เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิดสิ่งนี้จึงเกิด”คือ เมื่อ ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม รวมตัวกัน กลายเป็น อวินิพโภครูป ๘ (ดิน น้ำ ไฟ ลมเกิดร่วมกัน ส่งผลให้เกิด สี กลิ่น รส โอชา) อวินิพโภครูป ๘ นี้ กลายเป็นจักรวาล กลายเป็นภพภูมิ กลายเป็นขันธ์ห้า และเป็นอะไรต่ออีกไม่มีที่สิ้นสุด

ทุกลมหายใจของเรา ทุกอิริยาบทของเรา ทุกความคิดอันเรียกว่าเรานี้ ล้วนเป็นสายของปฏิจจสมุปบาททั้งสิ้น ธรรมชาติทำงานเองอยู่อย่างนี้ และแม้แต่จิตเอง ก็เป็นส่วนที่เกิดจากอวินิพโภครูป ๘ ด้วยกระบวนการที่เรียกว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี แล้วกลายเป็นเราที่เรียกว่า “ขันธ์ห้า”

การเห็นธรรมชาติเป็นปฏิจจสมุปบาทได้ ก็เพราะศรัทธาในพระรัตนตรัยด้วยปัญญาเท่านั้น หากไม่ศรัทธาในพระรัตนตรัยแล้ว จะเห็นแค่อะตอม(atom)ที่แบ่งชนิดออกเป็นธาตุเคมีตามโปรตอนและนิวตรอนในนิวเครียสอีกมากมาย ซึ่งเป็นอวินิพโภครูป ๘ ที่รวมกันหนามากแล้ว จึงเห็นได้เป็นอะตอม ที่ทำงานเป็นเมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด เป็นต้น เป็นสายเกิด ก่อภพชาติ ไปเรื่อยๆ แต่หากศรัทธาในพระรัตนตรัย จะเห็นทั้งสายเกิดและสายดับของวัฏสงสาร

สรุปอีกครั้ง

คุณสมบัติการเป็นโสดาบันบุคคล

๑. ดับเวร ๕ ประการ อันเป็นภัยร้ายแรงได้ คือหมั่นเพียรรักษาศีล ๕ อย่างดี

๒.ศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง คือใน ก. พระพุทธเจ้า ข.พระธรรม ค. พระสงฆ์ แล้ว ง. อริยศีลจะเกิดขึ้นเองไม่ต้องฝีนใจรักษา คือศีล ๕ นั่นเอง

๓. รู้จักปฏิจจสมุปบาท คือรู้จักว่าธรรมชาติทั้งปวง เกิดด้วยการอิงอาศัยกันและกันเกิด ไม่มีเวลาหยุดนิ่ง แม้แต่ชีวิตคือเรานี้ ก็เป็นปฏิจจสมุปบาท

ยึดหลักนี้ได้ เราก็เป็นโสดาบันบุคคล พ้นอบายแน่นอน ถึงยังไม่เป็นโสดาบันบุคคล แต่จิตของเราอยู่กับหลักนี้ ก็พ้นจากอบายภูมิแน่นอน เช่นกัน

หากเราไม่เข้าใจ แล้วอยากเข้าใจ แต่ไม่เพียรเพื่อเข้าใจ เราจะไม่เข้าใจตลอดไป

หากเราไม่เข้าใจ แล้วอยากเข้าใจ เพียรเพื่อเข้าใจ ฐานแห่งความเข้าใจจะเกิดตั้งแต่ขณะเพียรครั้งแรก เมื่อเพียรไม่หยุดหย่อนก็จะเข้าใจได้ และจะป้องกันอบายภูมิได้ อีกทั้งเป็นฐานให้เป็นโสดาบันด้วย ซึ่งจะปิดประตูอบายภูมิอย่างถาวร

อ้างอิง

https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=16&A=1812

You may also like...

Popular Articles...