
- Description
Buddhadhamma Tepitaka Bahukarasutta Phra Garuhat mix
ชวนโยมเรียนพระไตรปิฎก
เรื่อง พหุการสูตร
พระพึ่งโยม โยมพี่งพระ ก็จะเจริญรุ่งเรือง
ประเพณีแห่งพระพุทธศาสนา อีกรูปแบบหนึ่งที่เราคุ้นเคยเห็นกันอยู่เสมอ คือพระออกบิณฑบาตเพื่อต้องการอาหารเลี้ยงชีวิตแบบพระ คฤหัสถ์ก็ถวายอาหารบิณฑบาตแด่พระ และถวายปัจจัยอันเป็นเครื่องจำเป็นสำหรับการดำรงชีพแบบพระ คือ นอกจากอาหารแล้ว ก็มีเครื่องนุ่งห่ม (จีวร) เสนาสนะที่อยู่อาศัย(โบสถ์วิหารเป็นต้น) และคิลานเภสัช เพื่อบรรเทาร่างยามไม่สบาย ไม่ว่าจะเป็นสบู่ยาสีฟันเป็นต้น ล้วนเป็นเภสัชทั้งนั้น
การที่คฤหัสถ์ญาติโยมถวายปัจจัยสี่แด่พระสงฆ์ ก็ด้วยหวังว่า ท่านเป็นเนื้อนาบุญอ้นยิ่งใหญ่ จะได้ความเป็นมนุษย์และสวรรค์ก็ด้วยการถวายปัจจัยสี่แด่พระสงฆ์
ส่วนพระ ตอบแทนอุปการะของคฤหัสถ์ญาติโยมทั้งหลายด้วยการปฏิบัติดีปฏบัติชอบแล้วแสดงธรรมเท่านั้น และธรรมนั้น ต้องเป็นธรรมที่ถูกต้องเท่านั้น ดังที่ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “แม้เธอทั้งหลายก็จงเป็นผู้มีอุปการะมากแก่พราหมณ์และ
คฤหบดีทั้งหลาย จงแสดงธรรมอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด
จงประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง
แก่พราหมณ์และคฤหบดีเหล่านั้นเถิด”
คฤหัสถ์ถวายอามิสทานแก่พระ พระให้ธรรมทานแก่คฤหัสถ์ พึ่งพาอิงอาศัยกันอย่างนี้เท่านั้น จึงจะเจริญงอกงามทั้งทางโลกและทางธรรม เจริญทางโลก คือ อยู่ดีมีสุขขณะนี้ เกิดบนสวรรค์หลังจากตายแล้ว เจริญทางธรรม คือได้ปฏิบัติธรรม ได้สมาธิกรรมฐาน ได้บรรลุอริยบุคคล
การที่คฤหัสถ์จะเจริญอย่างถูกต้องนั้น ก็ใช่ว่า สักแต่ว่าฟังธรรมจากพระรูปใดก็ได้ หรือเลือกฟังเฉพาะพระที่ตนชอบเท่านั้น ปฏิบัติอย่างนั้นไม่ถูกต้อง
พระพุทธเจ้าทรงเน้นให้เลือกฟังจากพระอริยบุคคล หรือพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเท่านั้น แม้ฟังแล้ว ไม่ไตร่ตรอง ไม่พินิจด้วยปัญญาก็ไม่ถูกต้องอีก
แม้เราได้ฟังธรรมจากพระอริยบุคคล จากพระอรหันต์ หรือจากพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็ตาม เราก็ต้องหมั่นเพ่งพินิจพิจารณาหลักธรรมด้วยปัญญาที่บริสุทธิ์(ไร้กิเลสปรุงแต่ง) หากฟังเอาบุญ มันก็ได้แค่บุญ ไม่เกิดปัญญาไม่ได้เสพรสพระธรรมเลย อย่างมากธรรมะผ่านหูซ้ายออกหูขวา หรือเข้าหูขวาออกหูซ้าย มีความสุขแค่ได้ฟัง
รสพระธรรมอันเกิดจากการเห็นเอง รู้เอง สัมผัสเอง อันได้มาจากการพิสูจน์นั้น เป็นรสธรรมจริง ถึงบรรยายอธิบายให้คนอื่นที่ไม่ได้สัมผัสอย่างเรา อย่างไรเขาก็รับรู้ไม่ได้ อย่างมากแค่คิดตาม จินตนาการตาม เหมือนคนที่ไม่เคยลิ้มรสเปรี้ยว ถึงคนที่เคยลิ้มแล้ว จะอธิบายอย่างไร คนฟังก็รับรู้รสจริงๆไม่ได้ อย่างมากแค่คิดเอาเอง เออเองว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
ธรรมะที่ถูกต้องนั้น ต้องเป็นธรรมอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด (สัมพันธ์กันทุกขั้นตอน ต้น กลาง หรือปลาย) เป็นพรหมจรรย์(สะอาด) ทั้งอรรถ(เนื้อหา) ทั้งพยัญชนะ(อักษรไม่ผิดเพื้ยน) บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง
ปฏิบัติตามแล้ว เบา สบาย ปลอดโปร่ง เบิกบาน แจ่มใส ไร้โทษ ตายแล้วขึ้นสวรรค์ หรือดับกิเลสได้
คฤหัสถ์ที่เลือกฟังธรรมอย่างนี้เท่านั้น จึงจะเป็นอุบาสกอุบาสิกาที่แท้จริง เป็นผู้ช่วยรักษาพระศาสนาและช่วยเผยแผ่พระศาสนาด้วย
หากพระแสดงธรรมที่ไม่ใช่ธรรม โยมชอบฟังธรรมที่ไม่ใช่ธรรมดังกล่าวแล้ว เราทั้งสองฝ่ายก็เป็นผู้ทำลายพระพุทธศาสนา หลักธรรมจริงๆเรารักษาไม่ได้ เราไม่ชอบรักษา เรารักษาพระพุทธศาสนาได้ ก็แค่รักษาประเพณีเท่านั้น เราไม่เคยเข้าถึงธรรมะเลย
เราทั้งสองฝ่ายไม่ได้ประโยชน์อันงามจากพระพุทธศาสนาเลย พระได้ลายยศ ได้ปัจจัยสี่แบบพระ โยมอุปภัมภ์พระก็เพื่อลาภยศแบบโยม มันเป็นประเพณีแห่งลาภยศอย่างหนึ่ง เจริญเพื่อเป็นทุกข์ เจริญเพื่อความเสื่อมแห่งจิตวิญญาณ ไม่ใช่เจริญเพื่อบันเทิงแห่งธรรม
อ้างอิง
https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=25&siri=222