Buddhadhamma Tepitaka Payasirajannasutta -1

ชวนโยมเรียนพระไตรปิฎก

เรื่อง ปายาสิราชัญญสูตร

เจ้าปายาสิไม่เชื่อนรกสรรค์ ไม่เชื่อผลกรรมดีกรรมชั่วว่ามีจริง

พระกุมารกัสสปเถระ เป็นพระอรหันต์ตั้งแต่ยังหนุ่ม เป็นพระเถระที่แสดงธรรมด้วยภาษาที่ไพเราะ อีกทั้งธรรมะก็ละเอียดงดงาม ลึกซึ้ง

วันหนึ่ง ท่านพาพระภิกษุลูกศิษย์ ประมาณ ๕๐๐ รูป เที่ยวจาริกแสดงธรรมโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลาย จนถึงเมืองเสตัพยนคร อันเป็นเมืองในรัฐโกศล มีเมืองสาวัตถีเป็นเมืองหลวง ส่วนเสตัพยนครเป็นเมืองเล็กขึ้นต่อสาวัตถี แต่เป็นเมืองพรหมไทย ที่พระเจ้าปเสนทิโกศลอนุญาตให้เป็นเขตปกครองตนเองอย่างอิสระ มีเจ้าปกครองเป็นระดับราชานามว่าปายาสิ เป็นราชาที่ไม่เชื่อบุญกรรม ไม่เชื่อนรกสวรรค์ คนที่เชื่อนรกสวรรค์คือคนโง่ ปัญญาอ่อน

ขณะที่พระเถระพร้อมพระภิกษุประมาณ ๕๐๐ รูป ถึงเมืองเสตัพยะ หมู่ประชาก็แตกตื่น อยากเห็นท่านเพราะเป็นพระเถระรูปที่โด่งดังมากในสมัยนั้น จึงพากันไปดูท่าน เจ้าปายาสิ พอทราบว่า หมู่ประชาชนกำลังไปหาพระกุมารกัสสปะ ก็อยากไปบ้าง เพราะก่อนหน้านั้น พระรูปนี้เคยมาเทศน์จนคนโง่เชื่อว่าบุญกรรมมี นรกสวรรค์มี ซึ่งความจริงแล้วมันไม่มี จึงอยากสนทนากับพระเถระ

ก่อนนั้น ท่านก็เคยผ่านมาเมืองนี้ และแสดงธรรมจนมีพุทธบริษัทเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้น ในหมู่ประชาชนที่ตื่นเต้นที่อยากเห็นพระเถระ ก็มีพุทธบริษัทด้วย ส่วนนอกนั้น ไปเพราะอยากเห็นพระเถระ เมื่อไปถึงแล้ว บางพวกก็สนทนากับพระเถระ บางพวกก็ยกมือไหว้ บางพวกก็บอกชื่อตนและตระกูล บางพวกก็นั่งนิ่งเฉยๆ

เมื่อนั่งเรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็แสดงทิฏฐิ ความคิดที่ไม่เชื่อเรื่องบุญบาป ไม่เชื่อนรกสวรรค์ พระเถระก็แสดงท่าทีว่า ไม่แปลกที่เชื่ออย่างนี้ เพราะก็มีคนมากมายไม่เชื่อ ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่า ทำไมคนเหล่านั้น จึงคิดอย่างนี้ ถ้าอย่างนั้น ขอถามบพิตรสักหน่อยหนึ่ง ขอให้พระองค์ตอบความชอบใจของพระองค์

“บพิตร ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เป็นของโลกนี้หรือโลกอื่น เป็นเทวดาหรือเป็นมนุษย์”

เจ้าปายาสิคิดครุ่นคิดว่า หากตอบว่า เป็นของโลกนี้ เดี๋ยวพระก็จะถามขนาดของดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ เราก็จะตอบไม่ได้อีก จึงเลี่ยงตอบว่า

“พระคุณเจ้ากัสสปะ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เป็นของโลกอื่น เป็นเทวดา ไม่ใช่มนุษย์”

พระเถระจึงกล่าวว่า

พระองค์ตอบอย่างนี้ ก็แสดงว่าพระองค์ยอมรับนรกสวรรค์ ยอมรับผลของกรรมดีกรรมชั่ว”

(ยังมีต่อ)

https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=10&siri=10