
- Description
Buddhadhamma Tepitaka Samadhisutta – 11022, 9.03 PM
ชวนโยมเรียนพระไตรปิฎ
เรื่อง สมาธิสูตร
สมาธิ ๔ ประการ
คือ
๑. สมาธิทำให้อยู่เป็นสุขขณะนี้
๒. สมาธิทำให้เกิดอภิญญา เช่นทำให้เกิดตาทิพย์ เป็นต้น
๓. สมาธิทำให้เกิดสติปัญญา
๔. สมาธิทำให้หมดกิเลส
อธิบายธรรม
๑. สมาธิทำให้อยู่เป็นสุขในขณะนี้
วิธีทำกรรมฐาน ได้กล่าวบ่อยครั้งแล้ว อาจจะเพียงพอสำหรับท่านที่ต้องการบำเพ็ญเพียรเจริญภาวนา
การกำหนดกรรมฐาน แม้เพียงเพียรพยายามในเบื้องต้น ก็เป็นประโยชน์มากมาย หากจิตไม่เป็นสมาธิเลย อย่างน้อยเราก็ได้รู้จักตัวเองบ้าง เช่น รู้สึกทำกรรมฐานยาก กำหนดอารมณ์กรรมฐานยาก ฟุ้งซ่าน เกียจคร้าน เป็นต้น อารมณ์เหล่านี้ โดยปกติประจำแล้วเราไม่เคยรู้เลย เราปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ พาไป จิตพาทำ พาพูด พาคิดอะไร เราก็เป็นไปตามจิต
การทำกรรมฐาน จึงมีแต่ประโยชน์ หากทำบ่อยๆ เราก็จะผ่านความเกียจคร้าน ผ่านความหงุดหงิดผ่านความรำคาญได้ ที่ละเล็กทีละน้อย แม้ได้ประมาณนี้ ก็ถือว่าได้ประโยชน์มากมาย มนุษย์บนโลกใบนี้ มีน้อยคนนักที่จะเพียรดับกิเลสของตนเอง ส่วนใหญ่ถูกกิเลสพาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ตลอดเวลาของชีวิต
การทำกรรมฐานเพื่อดับหรือระงับกิเลส แม้ดับไม่ได้ทันที แต่อย่างน้อยเราระงับได้ หากเราเพียรต่อไปเรื่อยๆ สมาธิระดับละเอียดต้องเกิดแน่นอน สมาธิจะตั้งอยู่น้อยหรือมากก็ขึ้นอยู่เวลาแห่งความเพียรที่เราทำไป หากทำๆหยุดๆ ความต่อเนื้องก็ไม่มี เหมือนจะเริ่มต้นใหม่อยู่เรื่อย แต่หากเรามุ่งมั่นทำทุกวัน แม้วันละเล็กละน้อยก็ตาม ก็ควรทำ วันละ ๑๐ นาที ๒๐ นาที ก็ยังดี การได้รู้จักตัวเองแม้เพียงนี้ เป็นบุญมากมาย
วันหนึ่ง เราก็จะสัมผัสจิตที่เป็นสมาธิระดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ คือระดับ
ปฐมฌาน
จิตขณะเป็นสมาธิ มีองค์ประกอบ ๕ ประการ คือ
มีวิตก (จิตกำหนดอารมณ์กรรมฐาน)
มีวิจาร (จิตประคองอารมณ์กรรมฐาน)
ปีติ เกิดอิ่มใจ ขณะเกิดความสงบแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
สุข ขณะจิตกำหนดกรรมฐาน ประคองอารมณ์กรรมฐานได้ต่อเนื่อง จะมีความสุขตามไปด้วยขณะที่กำหนดกรรมฐาน
เอกัคคตา จิตเป็นสมาธิ คำว่าจิตเป็นสมาธินี้ หมายถึงสมาธิที่เกิดขึ้นตั้งแต่เรากำหนดอารมณ์กรรมฐาน(วิตก) เราประคองอารมณ์กรรมฐานได้ระดับหนึ่ง(วิจาร)
เมื่อธรรม ๕ ประการเกิดด้วยกัน เป็นอันว่าเราเข้าปฐมฌานแล้ว
หากจิตละเอียดขึ้นเรื่อยๆ จิตที่ละเอียดจะตัดธรรมะต้นๆออกไปเรื่อยๆ จนถึงจตุตถฌาน จิตจะเป็นสมาธิและวางเฉยเท่านั้น(อุเบกขากับเอกัคคตา)
ความสุขเกิดได้ขณะจิตเป็นสมาธิ
นี้คือประโยชน์ประการที่หนึ่งจากสมาธิจิต
วันนี้ ขอกล่าวสมาธิไว้เพียงนี้ก่อน
เราเกิดมาชาตินี้ ได้เจอพระพุทธศาสนา ถือว่าเป็นลาภเป็นความประเสริฐมากของความเป็นมนุษย์ในชาตินี้ จึงควรถือเอาประโยชน์ของความเป็นมนุษย์ให้มาก พร้อมๆกับการดำเนินชีวิตด้วยการงาน ไม่ควรถือเอาประโยชน์จากชีวิตเพียงแค่ทำงานหาเงินเลื้ยงชีวิตให้แก่ให้ตายไปเพียงแค่นี้ เพราะการเป็นอย่างนี้ เราได้เราเป็นมานับภพชาติไม่ถ้วนเลย แต่การที่จะได้ทำกรรมฐานเพื่อข่มกิเลส เพื่อดับกิเลส เราทำน้อยภพชาติมาก หรือแทบไม่เคยทำเลย
ความเกียจคร้านเป็นปัญหาเป็นอุปสรรคใหญ่มากสำหรับการบำเพ็ญเพียรทางจิต ความเกียจคร้านมันไม่ใช่แค่ความรู้สึกของจิต แต่มันหมายถึงทุกชิ้นส่วนของร่างกาย ทุกอวัยวะของร่างกาย ต้องแต่สมองไปจนถึงระบบเส้นประสาทต่างๆล้วนแสดงตนเป็นผู้เกียจคร้านทั้งสิ้น และมันกลายเป็นDNAของชีวิต ติดไปตลอดชีวิตและข้ามภพขามชาติไปอีก เราจะสูญเสียประโยชน์ที่ควรจะได้จากความเป็นมนุษย์ที่เกิดมาเจอพระพุทธศาสนา
อ้างอิง
https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=21&A=1188