
- Description
Buddhadhamma Tepitaka Payasi ii
ชวนโยมเรียนพระไตรปิฎก
เรื่อง ปายาสิราชัญญสูตร (ตอนที่ ๒)
เจ้าปายาสิไม่เชื่อนรกสรรค์ ไม่เชื่อผลกรรมดีกรรมชั่วว่ามีจริง
สรุปบทสนทนาระหว่างพระกุมารกัสสปเถระกับเจ้าปายาสิ
หลังจากพระกุมารกัสสปะถามเจ้าปายาสิว่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ เป็นของโลกนี้ หรือโลกอื่น เจ้าปายาสิ ตอบว่า เป็นของโลกอื่น แล้วก็ไม่ใช่เป็นมนุษย์ด้วย
พระกุมารกัสสปะ จึงกล่าวว่า พระองค์ตอบอย่างนี้ ก็เท่ากับยอมรับว่า โลกอื่นมี ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้น (ยอมรับว่านรกสวรรค์มี ผลของกรรมดีกรรมชั่วมี)
เจ้าปายาสิ ก็ยังไม่เชื่อ
พระกุมารกัสสปะจึงถามว่า ทำไมจึงไม่เชื่อ
เจ้าปายาสิกล่าวว่า
โยมได้ขอให้มิตรอำมาตย์ญาติสายโลหิตที่เป็นคนผิดศีล คิดร้ายต่อผู้อื่น เป็นมิจฉาทิฏฐิ ที่กำลังจะตายว่า มีสมณพราหมณ์บางพวกกล่าวว่า คนไม่มีศีลธรรม ป้องร้าย เป็นมิจฉาทิฏฐิ หลังจากตายแล้วต้องตกนรก เกิดเป็นเปรติ อสุรกาย เดรัจฉาน พวกท่านเป็นคนไร้ศีลธรรม เป็นมิจฉาทิฏฐิ เมื่อตายแล้ว ต้องตกนรก เกิดเป็นเปรต อสุรกาย เดรัจฉานแน่นอน ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง หากพวกท่านตกนรก เป็นเปรต อสุรกาย เดรัจฉานจริง จงกลับมาบอกเราด้วยนะ จะได้ยืนยันว่า นรกสวรรค์มีจริง ผลของกรรมดีกรรมชั่วมีอยู่จริง แต่หลังจากคนเหล่านั้นตายแล้ว ก็ไม่เห็นมีใครมาบอกสักคน โยมจึงเชื่อว่า นรกสวรรค์ไม่มีอยู่จริง ผลของกรรมดีกรรมชั่วไม่มี
ถ้าอย่างนั้น อาตมภาพของถามบพิตร ขอพระองค์ตอบตามที่ต้องการเถิด
หากเจ้าหน้าที่จับโจรร้ายมาให้พระองค์ แล้วกราบทูลให้พระองค์ลงอาชญาตาม พระประสงค์ พระองค์จึงสั่งให้ประจานโจรร้ายนี้ตามถนน ตามแยกของเมือง ป่าวประกาศความชั่ว แล้วให้ประหารเสีย แต่ก่อนประหาร โจรขออนุญาตเพชฌฆาตไปลาญาติมิตรก่อนแล้วจะกลับมาให้ประหาร พระองค์เห็นว่าเป็นไปได้ไหม
ไม่ได้เลยท่านกัสสปะ เพชฌฆาตต้องประหารโจรร้ายทันที ไม่มีการผ่อนผัน
บพิตร ขนาดโจรเป็นมนุษย์ยังไม่ได้รับการผ่อนผันจากเพชฌฆาตผู้เป็นมนุษย์เหมือนกันเลย แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่นายนิรยบาย(ยมทูต)จะปล่อยสัตว์นรกมาบอกมนุษย์ได้
ท่านกัสสปะ ที่ท่านกล่าวนั้นก็จริง แต่ถึงอย่างไร โยมก็ไม่เชื่อว่านรกสรรค์มีจริง ผลของกรรมดีกรรมชั่วมีอยู่จริง
พระองค์เห็นอย่างไร จึงไม่เชื่อว่านรกสวรรค์มีอยู่จริง ผลของกรรมดีกรรมชั่วไม่มีอยู่
ท่านกัสสปะ โยม ได้ขอให้มิตรอำมาตย์ญาติสายโลหิตของโยมที่เป็นคนดีมีศีลธรรม เป็นสัมมาทิฏฐิ ที่กำลังป่วยจะตายว่า พวกสมณพราหมณ์บางพวกกล่าวว่า คนดีมีศีลธรรม เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อตายแล้ว จะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ พวกท่านเป็นคนดีมีศีลธรรม เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อตายต้องไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์แน่นอน หากพวกท่านตายแล้วไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์แล้ว จงกลับมาบอกเราด้วย เพื่อยืนยันว่านรกสวรรค์มีอยู่จริง ผลของกรรมดีกรรมชั่วมีอยู่จริง แต่แล้วคนเหล่านั้นตายไปแล้ว ก็ไม่มีใครสักคนกลับมาบอกโยมว่า นรกสวรรค์มีอยู่จริง ผลของกรรมดีกรรมชั่วมีอยู่จริง ดังนั้น โยมจึงเชื่อว่านรกสวรรค์ไม่มีอยู่จริง ผลของกรรมดีกรรมชั่วไม่มีอยู่จริง
ถ้าอย่างนั้น อาตมภาพขอถามพระองค์ ขอให้พระองค์ตอบตามพระประสงค์เถิด
หากมีคนตกหลุมอุจจาระมิดศรีษะ พระองค์รับสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปช่วยยกคนนั้นขึ้นจากหลุม แล้วให้ขัดอุจจาระออก ให้ตัดผมโกนหนวด ให้อาบน้ำ ทาน้ำมันบำรุงผิว ทาผงจุณหอม ให้สวมใส่เสื้อผ้าราคาแพงมากๆ ให้ ประดับประดาด้วยดอกไม้งามหอม เชื้อเชิญเขาไปอยู่บนปราสาทที่สวยงามวิจิตรตระการ บำรุงบำเรอด้วยกามคุณ ๕ อย่างประณีต พระองค์คิดว่าเขาอยากจะกลับไปจมอยู่ในหลุมอาจจาระจนมิดศรีอีกหรือ
เป็นไปไม่ได้ท่านกัสสปะ
อย่างนั้นเหมือนกัน บพิตร
คนดีมีศีลธรรม เป็นสัมมาทิฏฐิ ตายแล้วไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เป็นเทวดาผู้งดงามก็ไม่อยากเข้าใกล้มนุษย์ เพราะมนุษย์มีกลิ่นเหม็นเน่าแรงมาก อีกทั้งน่าเกลียด สกปรก
ท่านกัสสปะ กล่าวอย่างนั้นก็จริง แต่อย่างไร โยมก็เชื่อว่านรกสวรรค์ไม่มีจริง ผลของกรรมดีกรรมชั่วไม่มีจริง
ยังมีต่อ
อ้างอิง ข้อ ๔๑๒-๔๑๕
https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=10&siri=10